หนุ่มคลั่งซิ่งเก๋งพุ่งชนร้านอาหาร ผัวเมียเจ้าของร้านเจ็บสาหัส ลูกค้าวิ่งหนีตายอลหม่าน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 มกราคม 2564 พ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธุ์ ร้อยเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุรถ เก๋งพุ่งชน ร้านอาหารติดกับ ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และมีควันไฟพวยพุ่งออกมา หลังรับแจ้งจึงประสานยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุพบเป็นเพิงสังกะสีร้านขายอาหารตามสั่ง ชื่อร้าน “ภูมิใจ” อยู่ข้างห้างสรรพสินค้ากาฬสินธุ์พลาซ่า สาขา 1 และติดกับกำแพงของ ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก และหลายคนอยู่ในอาการตกใจ ภายในร้านพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ซ สีดำ พุ่งชนเข้าไปในร้านดังกล่าว ด้านหน้าพังยับเยิน และยังข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของร้านพังเสียหาย กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมา คาดว่าน่าจะเป็นควันจากเครื่องยนต์ เจ้าหน้าที่จึงทำการตัดระบบถังแก๊สและนำออกมาจากเปลวไฟเพื่อความปลอดภัย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เป็นสองสามีภรรยาเจ้าของร้าน ทราบชื่อคือ นายพงษ์พัฒน์ นันทแพง อายุ 25 ปี ถูกรถชนกระเด็นมาอยู่อีกฝั่งของร้าน ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลังและขา กระดูกสะโพกแตก ส่วน นางสาวยุภา อิ่มแมน อายุ 27 ปี ภรรยาถูกรถชนติดอยู่ในร้าน พลเมืองดีช่วยกันนำตัวออกมา ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าที่กำลังนั่งกินข้าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 ราย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการตั้งใจขับรถพุ่งชนเข้าไปในร้าน มุ่งหวังฆ่าสองสามีภรรยาเจ้าของร้าน ที่กำลังนั่งอยู่ในร้าน ส่วนคนขับหลังก่อเหตุได้ลงมาจากรถ แล้วเตะหม้อก๋วยเตี๋ยว เตะข้าวของแล้วเดินหลบหนี ก่อนที่จะย้อนกลับมา พร้อมร้องตะโกนจะหมายจะเอาชีวิตเจ้าของร้านอีก พลเมืองดีและเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายเชาวัตน์ พึ่งเจริญ อายุ 25 ปี ซึ่งยังคงอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก
จากการสอบถามนางรุ่งราวรรณ ภูบุตตะ อายุ 37 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่งร้านที่อยู่ติดกันทราบว่า ก่อนเหตุเกิดเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับมา และคนขับลดกระจกลงแล้วตะโกนออกมาว่า “กูจะไม่เอามึงไว้” ก่อนจะเร่งเครื่องขับพุ่งเข้ามาในร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งขณะนั้น สองสามีภรรยาเจ้าของร้านกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่เก้าอี้ จนทั้งสองคนกระเด็นไปคนละทิศละทาง จากนั้นคนขับก็ถอยหลังออกไป ก่อนที่จะเร่งเครื่องพุ่งเข้ามาชนซ้ำรอบสอง ท่ามกลางลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารที่อยู่ร้านติดกัน และชาวบ้านที่มาทำธุระที่ ธ.ก.ส.ต่างตกใจแตกตื่นวิ่งหนีเอาตัวรอดกันอย่างจ้าละหวั่น โชคดีที่ในร้านมีโต๊ะเก้าอี้ขวางความแรงของรถไว้ ส่วนคนขับหลังก่อเหตุได้เดินทางมาจากรถแล้วยังเตะหมอก๋วยเตี๋ยวและถ้วยชามก่อนเดินหนีไป
ทั้งนี้ สอบถามนางวนิดา พึ่งเจริญ อายุ 55 ปีเจ้าของร้านขาย ถุงซักผ้า ถุงตาข่ายซักผ้า แม่ของนายเชาวัตน์ ซึ่งขายแว่นตาอยู่ร้านข้างกัน กล่าวว่า ลูกชายนั้นป่วยมีอาการทางประสาท ประมาณปีเศษแล้ว ซึ่งได้ไปรักษาและอยู่ระหว่างการกินยา ก่อนเกิดเหตุก็เห็นลูกชายเป็นปกติ แต่ไม่นึกว่าอยู่จะมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนก็ตกใจอย่างมาก ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าก่อนหน้านี้ลูกชายเคยมีเรื่องทะเลาะกับนายพงษ์พัฒน์ นันทแพง ประมาณ 1 ปี จึงอาจจะมีความแค้น ประกอบกับมีอาการทางประสาท และคาดว่าช่วงเช้ายังไม่ได้กินยาจึงมาก่อเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก พร้อมเชิญตัวญาติมาสอบถาม ซึ่งเบื้องต้นญาติระบุว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางประสาท เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่ามีอาการทางประสาทจริงหรือไม่ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้มีเรื่อง โดยได้ทำร้ายร่างกายใช้เหล็กตีศีรษะ นายพงษ์พัฒน์ มาก่อนครั้งหนึ่ง ซึ่งมีการแจ้งความและขึ้นศาล คาดว่านายเชาวัฒน์จะมีความแค้น และมีอาการทางประสาทจึงมาก่อเหตุอีก พร้อมกับสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปเหตุการณ์ครั้งนี้ต่อไป