หนุ่มเพิ่งกินเลี้ยงวันเกิด 18 ปี ถูกดักทำร้ายดับสลด สัปเหร่อบอกวิญญาณยังมีห่วง

เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ค.63 ที่ผ่านมา มีเหตุชายถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัส หมดสติในที่เกิดเหตุ หน่วยกู้ชีพตําบลหนองบัวบานต้องทำการปั๊มหัวใจก่อนนำส่งโรงพยาบาลรัตนบุรี แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่ บ้านคุ้มห้วย หมู่ที่ 12 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียชีวิต ชื่อ นายคมสัน อายุ 18 ปี ญาติกำลังจัดเตรียมสถานที่จัดงานศพ และรอนำศพจาก รพ.สุรินทร์ ส่งไปยังบ้าน โดยทางญาติเล่าว่าคืนวันที่ 12 พ.ค.63 ผู้ตายและเพื่อนผู้หญิงอีก 3 คน มานั่งกินหมูกระทะกันฉลองวันเกิดย้อนหลัง โดยนายคมสันเกิดวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากกินเสร็จเพื่อน 2 คน จึงวานให้ผู้ตายให้ไปส่งที่บ้าน จนถูกดักทำร้ายร่างกายเสียชีวิต

สาเหตุที่ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตนั้นทางญาติและเพื่อนๆ ไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไร ซึ่ง ผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นแฟนของเพื่อนผู้หญิงที่นายคมสันไปส่ง คาดว่าน่าจะมาจากความหึงหวง พอไปส่งจึงถูกดักทำร้าย โดยผู้ตายกับผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ชุดสืบสวน สภ.รัตนบุรี ได้ออกติดตามจับได้ทันควันในคืนเกิดเหตุ ต่อมาเมื่อช่วงเช้า วันที่ 13 พ.ค.63 ชุดสืบสวนได้นำวัยรุ่นทั้ง 7 คน ไปทำแผนชี้จุดในที่เกิดเหตุ ก่อนจะสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆ ได้ในขณะนี้ เกรงจะเสียรูปคดี แต่เบื้องต้นนั้นมีผู้ก่อเหตุ 7 คน เป็นเยาวชน รับสารภาพคนเดียว จึงได้ตั้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายไว้ก่อน

จากนั้นผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณ 3 แยกช่วงโค้งบ้านโพนแคน เข้าบ้านดินแดง ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนเกิดเหตุกลุ่มที่ทำร้ายร่างกายมาดักรอตรงจุดมุมทางโค้ง นำรถ จักรยานยนต์แอบข้างทางไว้ และชาวบ้านบอกว่าจุดที่พบผู้เสียชีวิตจะนอนสลบอยู่ใกล้ท่อน้ำ และมีรอยเท้าเป็นจุดๆ หญ้ามีร่องรอยไถลลง ซึ่งชาวบ้านยังบอกอีกว่า เมื่อคืนเกิดเหตุนั้นได้ยินเสียงของกลุ่มวัยรุ่นดังมาก เหมือนทะเลาะกันจึงไม่กล้าออกมาดูเพราะกลัว จากนั้นได้ยินเสียงอีกครั้งจึงพากันออกมาดู พบกลุ่มวัยรุ่นกำลังทำร้ายจึงเข้ามาช่วย

เมื่อเวลา 17.00 น. (14 พ.ค.63) กู้ภัยกลุ่มผู้ใหญ่ใจดี ได้นำศพใส่โลงจาก รพ.สุรินทร์ มาส่งที่บ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ขณะที่ทำพิธีส่งดวงวิญญาณ สัปเหร่อได้ทำพิธีเสี่ยงทายไข่ หากโยนไปแล้วไข่แตก ดวงวิญญาณจะตัดขาดรับรู้การตาย ไม่อยู่บ้านอีก เมื่อสัปเหร่อโยนไข่กระทบกับโลงแต่กลับไม่แตก เหมือนดวงวิญญาณยังห่วงอะไรสักอย่าง แต่เมื่อญาติบอกกล่าวไม่ต้องห่วงให้ไปดี สัปเหร่อก็โยนอีกครั้งไข่จึงแตก สัปเหร่อจึงได้ทำพิธีขอขมาต่อศพและนำเงินวางที่ศพตามความเชื่อ ท่วมกลางเสียงร้องไห้เศร้าโศกเสียใจของญาติๆ ซึ่งสภาพศพของผู้ตาย ญาติบอกว่าถูกตีที่ท้ายทอย คอหัก แขนฟกซ้ำและใบหน้าฟกช้ำ

นางบัวสอน ผู้เป็นแม่เล่าทั้งน้ำตา ว่า ลูกตนอยู่แต่ในกรุงเทพ เพิ่งจะกลับมานี่เอง กลับมายังไม่ถึงเดือน อยากให้คนที่กระทำความผิดมาขอขมาศพ ครอบครัวจะไม่เผาศพถ้าไม่มาขอขมา ลูกตนไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่รู้จักคนๆ นั้นเลยด้วยซ้ำ ไม่อยากให้ลูกตนตายฟรี คนเป็นพ่อเป็นแม่มันใจจะขาด ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลย อยู่ดีๆ ลูกก็มาตายต่อหน้าต่อตา ไม่มีใครคิดฝันว่าจะมาตายแบบนี้

อยากให้คิดหน่อยว่า การที่จะฆ่าใครสักคน มันไม่ใช่เหมือนหมูเหมือนหมา อยากจะฆ่าก็ฆ่าได้ แม้แต่ตัวเองยังรักตัวเอง คนอื่นก็ต้องรักเช่นกัน เป็นอะไรถึงจะมาฆ่ามาแกงกันแบบนี้ ไม่เคยคิดจะไปราวีใคร แต่ทำไมเขาต้องมาฆ่าลูกเราแบบนี้ด้วย ตนไม่อยากเชื่อ ไม่อยากยอม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ส่วน นายอนิรุต อายุ 28 ปี พนักงานโรงงานกล่องเอกสาร กล่องใส่เอกสาร  เป็นอาของผู้ตาย เชื่อว่าผู้หญิงลวงหลานของตนไปให้ทำร้ายแน่ มันบังเอิญเกินไปที่ผู้ชายจะไปดักฆ่า เชื่อว่าผู้หญิงต้องรู้เห็นเป็นใจ ตนเองก็กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคนทำร้ายมีกัน 7 คน แต่เวลาให้การกับตำรวจว่าตีคนเดียว ถ้าตีคนเดียวหลานของตนจะไม่เป็นแบบนี้ ตีคนเดียวไม่ตายแน่ ต้องมีเยอะกว่านั้น แต่ผู้หญิงก็ไม่ยอมบอก คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสอบสวน แต่ก็กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม